วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

อาหารเพื่อผิวพรรณ

ผิวอักเสบ  สิว  ผิวแห้ง  โรคผิวหนังเรื้อรัง  สามารถดูแลรักษาและป้องกันได้ด้วยอาหารที่เลือกสรรกินเป็นประจำนอกจากนี้  อาหารบางชนิดยังช่วยให้ผิวพรรณให้มีสุขภาพที่ดีอีกด้วย
รู้มั้ยว่าอาหารที่เรากินกันนั้นมีสารอาหารที่จะช่วยป้องกันริ้วรอย  จุดด่างดำ  กระ  ฝ้าบนใบหน้า  และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงในการต่อต้านโรคผิวหนังอักเสบหรือเริม ได้ด้วย
ความวามมาจากภายใน  การกินอาหารที่มีประโยชน์  ก็สามารถช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีและอ่อนเยาว์หากมีการอักเสบเพียงเล็กน้อยในร่างกาย ก็ทำให้ผิวแก้ก่อนวัยได้  ดังนั้น  เราจึงควรกินไขมันชนิดดีและกินน้ำตาลให้น้อยลง  นอกจานี้ก็ยังขึ้นอยู่กับลักษณะส่วนตัวของแต่ละบุคคลนั่นคือ  ผิวไหม้แดดเร็วไหม  ผิวคุณแห้งหรือเป็นสิวง่ายไหม  หรือคุณเป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง  โรคเรื้อนกวาง  ผิวอักเสบหรือว่าเริม
อาหาร…หยุดสิว
คนที่มักเป็นสิว  ไม่ควรกินอาหารที่มีไขมันมากเกินไปเพราะมันจะไปกระตุ้นต่อมไขมัน  โดยเฉพาะไขมันจากสัตว์จะไปทำให้กระบวนการอักเสบของผิวเป็นมากขึ้น  และจากการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า  การดื่มนมสามารถทำให้สิวโผล่ขึ้นมาได้เพราะจากการทดลองกับอาสาสมัครโดยการ ให้กินนมทุกวัน  ปรากฏว่าเพิ่มความเสี่ยงของสิว 22% นักวิจัยเชื่อว่าฮอร์โมนในนมเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว  นอกจากนี้  ช็อกโกแลต  ขนามหวานๆ  มันฝลั่งทอด  หรือพิชซ่าที่คาดว่าเป็นตัวการทำลายผิวนั้นก็ยังโต้แย้งกันอยู่  แต่ที่ดีที่สุดคิอการกินอาหารที่มีประโยชน์  อาหารที่สำคัญสำหรับผิวที่เป็นสิวคือวิตามินอี  (เช่น ข้าวกล้อง  ถั่ว  พริกหวาน)  สังกะสี (เช่น  ข้าวโอ๊ด  โกโก้)  และชีลีเนียม (เช่น ปลา ไข่)
โรคผิวหนัง  Rosacea  เป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งมีอาการผื่นแดงบริเวณส่วนกลางของใบหน้า  เส้นเลือดจะขยาย  และอาจเกิดผื่นนูนแดงได้  หากเป็นนานๆ  ที่บริเวณจมูกจะทำให้จมูกโต  ไม่พบมานักในคนไทย  รักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือถ้าเส้นเลือดขยายมากอาจรักษาด้วยเลเชอร์  คนที่เป็นโรคนี้ควรหลีกเลี่ยงทุกอย่างที่ทำให้เกิดปัญหาที่ผิว  เช่น  แสงแดด  ความร้อน  แอลกฮอล์  เครื่องดื่มร้อนๆ  อาหารรสเผ็ด  เพราะจะทำให้กระตุ้นให้เกิดอาการผื่นแดงขึ้นได้  คุณควรพยายามสังเกตตัวเองว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผิวผื่นแดงข้อเสนอ แนะนำคือ  ลองเข้าคอร์สไดเอ็ด  อาจช่วยให้โรคนี้ดีขึ้นได้
โรคสะเก็ดเงิน  ชาวเอสกิโมรู้จักโรคนี้ดีเพราะมีอาการคันหรือพุพองเป็นตุ่มใส  มักเป้นบริเวณข้อศอกหลัง  เข่า  มือ  โรคนี้จะไม่เกิดเมื่อชาวเอสกิโมกินอาหารพื้นเมือง  เช่นกินปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3  และจากการศึกษาของนักวิขาการได้ยืนยันว่า  การกินกรด Alpha Linolenic (เช่น น้ำมันฝ้าย)  จะช่วยบรรเทาโรคนี้ได้  เช่น  วันหนึ่งๆ  ควรที่จะกินกรด Linolenic  1 กรัม  น้ำมันปลา 1.5 กรัม  เป็นประจำสม่ำเสมออาหารที่ต้องระวังคือ  เนื้อหมู  ไส้กรอก  อาหารรสเผ็ดและแอลกฮอล์  เพราะอาหารเล่านี้จะกระตุ้นให้โรคกำเริบได้
เริม  แสงแดด  ความเครียด  หวัด  ทำให้เกิดเริมที่ริมฝีปาก  เพราะเกือบ 90 % ของผู้ใหญ่มีไวรัสเริมหากภูมิคุ้มกันอ่อนแอ  ไวรัสก็จะแสดงฤทธ์เดชขึ้นมาผู้ที่เป็นเริมควรกินอาหารที่มีวิตามินซีมากๆ  เช่นผักและผลไม้  ก็จะป้องกันโรคเริมได้  เพราะวิตามินซีช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง  จากการศึกษาพบว่าการกินวิตามินซีครั้งละ 3 ครั้ง  ครั้งละ 600 มิลลิกรัมก็จะทำให้เริมที่ก่อตัวหายได้เร็วขึ้น  แต่การกินโปรตีน  Arginine  จะทำให้ไวรัสเพิ่มขึ้นเร็ว  โปรตีน  Arginine   มีอยู่ในถั่ว  ซ้อกโกแลต  วุ้น  และลุกเกด  จึงควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารดังกล่าว  ส่วนอาหารที่ทำให้ไวรัสอ่อนแอ ก็คือ  ปลา ไข่ นม  สัตว์ปีก  มันฝรั่ง  และผลไม้เปลือกแข็ง
ผิวแห้ง  คนที่มีผิวแห้งและอยากถนอมผิวให้นุ่มนวลอยู่เสมอควรดูแลจากภายในและควรกินไข มันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย  ควรใส่ใจกันกรดโอเมก้า-3 และ6 หากผิวแห้งมาก  ควรกินกรด  Linolenic  ซึ่งมีความสำคัญต่อผิว  และอย่าลืมรักษาความชุ่มชื้นของผิว  เช่น  กรดอะมีโน  Arginine  ซึ่งมีมากในถั่วลิสง  รำข้าวสาลี  และผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง
ผิวสุขภาพดี  จาการศึกษาของมหาวิทยาลัย Monash  โนเมลเบิร์น  ประเทศออสเตเรียพบว่าคนที่กินปลาบ่อย  กินน้ำมันพืชและกินผักอย่างเพียงพอ  มีริ้วรอยน้อยกว่าคนในวัยเดียวกันซึ่งชอบกินเนื้อสัตว์  กินน้ำตาลและเนยมาก  นอกจากนี้กินผลิตภัณฑ์ถั่วเหลืองซึ่งมีไฟโตเจนก็จะช่วยยับยั้งไม่ให้ผิวแก่ เร็ว  เพราะการศึกษาวงการแพทย์พบว่าเกือบทุกกระบวนการความชราในร่างกายทั้ง ผิวหนัง  มีผลมาจากการอักเสบ  เล็กๆ น้อยๆ   ซึ่งส่งผลให้เลือดตีบตัน  ทำให้สารอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ  ได้ไม่ดีทำให้ผิวอ่อนหล้า
กันแดดจากธรรมชาติ  ในฤดูร้อนผิวต้องการปกป้องเป็นพิเศษ  และเราก็สามารถหาได้จากการกินซึ่งปกป้องผิวได้ส่วนหนึ่งพร้อมกับการใช้ ผลิตภัณฑ์กันแดดควบคู่กันไปด้วย  อาหารที่ปกป้องผิวคือ  ไลโคปีนจากมะเขือเทศวันละ 20 กรัม  ไลโคปีนจากแตงโม  หรือเบต้าเคโรทีนวันละ 20 กรัมจากแครอตและผักโขม  ส่วนผู้ที่มีผิวค่อนข้างขาวกินผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวด้วย  แต่ไม่ควรกินของหวานเพราะจะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากยิ่งขึ้น  ส่วนคนที่เป้นกระ  จุดด่างดำง่าย  ควรกินวิตามินซี  ให้มาก  เช่น ส้ม กีวี  เพราะมันจะช่วยให้การผลิตเมลานิน เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ  ซึ่งจะทำให้เกิด กระ จุดด่างดำได้น้องลง
อาหารที่ช่วยดักจับอนุมูลอิสระ  ผักผลไม้ 10 อย่างดังต่อไปนี้เป็นอาหารดปรดของผิว เช่น ผักโขม  พริกหวานสีแดง   พริกชี้ฟ้า  หัวหอมใหญ่  เกรฟฟรุต  เห็ด  มะเขือม่วง  แอปเปิ้ล  ส้ม และหน่อๆไม้ฝรั่ง
อาหารที่ทำร้ายผิว
อาหารที่มีกรด  Atschidonic จะทำให้ผิวอักเสบ  เช่น  ตับหมู  นำมันหมู  ตับลุกวัว  ไข่แดง  หมูแฮม  ตับวัว  ตับบด
ยอดน้ำมันพืช  นำมันฝ้าย  มีกรดโอเมก้า-3 มากที่สุดรองลงมาก็คือ  น้ำมันวอลนัต  น้ำมันปอ  น้ำมันถั่วเหลือง  น้ำมันข้าวสาลี  น้ำมันมะกอก  น้ำมันถั่วลิสง  น้ำมันข้าวโพด  น้ำมันงา เป็นต้น
ขอขอบคุณ  : นิตยสาร Lisa

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น