วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

ขับรถให้"เก่ง"...ไม่ง่ายเลย

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดของข้าพเจ้า และของขวัญที่ข้าพเจ้าได้จากพ่อและแม่

ของข้าพเจ้าคือ รถยนต์คันปัจจุบันของข้าพเจ้า เพื่อมาทดแทนรถจักรยานยนต์ที่เพิ่งหายไป โดยตอนที่ได้

รถคันนี้มา ข้าพเจ้ายังขับรถยนต์ไม่เป็นด้วยซ้ำ





ข้าพเจ้าจึงจำเป็นต้องหัดขับรถ โดยมีพ่อของข้าพเจ้าเป็นผู้สอนให้

วิธีการสอนของพ่อก็คือ นั่งข้างๆแล้วบอกให้ข้าพเจ้าขับไปเลย ถ้ามีอะไรก็เหยียบเบรค กาารขับรถครั้ง

แรกของข้าพเจ้าจึงเป็นไปอย่างทุลักทุเล อาจเป็นเพราะข้าพเจ้ารู้สึกกดดันจากพ่อที่นั่งมองดูการขับของ

ข้าพเจ้าอยู่ข้างๆ รวมถึงรถที่ข้าพเจ้าใช้ฝึกก็ยังใหม่อยู่ และเป็นรถยนต์คันแรกของข้าพเจ้าอีกด้วย



ข้าพเจ้าฝึกขับทุกๆวัน โดยข้าพเจ้าจะเป็นคนขับทุกครั้งที่มีการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น ทางใกล้ เช่น ไป

ทานอาหารนอกบ้าน หรือทางไกล เช่น ไปต่างจังหวัด



พอหัดขับได้ประมาณหนึ่งเดือน ข้าพเจ้าก็ไปสอบใบขับขี่ ในการสอบจะต้องสอบ 2 ตอน คือ ภาค

ทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ซึ่งข้าพเจ้าก็สามารถผ่านมาได้อย่างไม่ลำบากนัก


ตลอดระยะเวลา 5 เดือนระหว่างช่วงปิดเทอมทำให้ข้าพเจ้าได้สั่งสมประสบการณ์มากพอสมควร และ

ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุ หรือแม้แต่เฉี่ยวชนเล็กๆน้อยๆเลย


พอเปิดเทอม เป็นเวลาที่ข้าพเจ้าต้องนำประสบการณ์ทั้งหมดมาใช้จริงๆ คือจะต้องมาอยู่หอพักที่

ขอนแก่น แรกๆก็ดูเหมือนจะดี แต่พอผ่านไปประมาณหนึ่งอาทิตย์ ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังนำรถเข้าจอด รถ

ของข้าพเจ้าก็ไปขูดกับเสา เป็นแผลถลอก ข้าพเจ้าตกใจมาก เพราะเสียดายที่รถถลอก
อาทิตย์ต่อมา ข้าพเจ้าก็พบรอยถลอกอีกรอย โดยไม่รู้ว่าถลอกตั้งแต่เมื่อไหร่ คาดว่าน่าจะเป็นรถ

จักรยานยนต์ที่มาเฉี่ยวตอนที่ข้าพเจ้าจอดรถไว้ ข้าพเจ้าหัวเสียมากเพราะเสียดายที่รถถลอกอีกเช่นเคย

ข้าพเจ้าโทรบอกพ่อว่าจะเอารถเข้าศูนย์ พ่อข้าพเจ้าบอกว่าอีก 2 อาทิตย์จะจัดการให้

แต่อาทิตย์ต่อมา ขณะที่กำลังถอยรถออกจากที่จอด รถก็ไปขูดกับเสา(ต้นเตี้ยๆ)อีก เพราะมองไม่เห็น
เป็นแผลค่อนข้างใหญ่(สาหัส --*) แต่คราวนี้ ข้าพเจ้าไม่ตกใจหรือหัวเสียอีกแล้ว อาจเป็นเพราะ

ข้าพเจ้าคงจะชินจากการเฉี่ยวชนบ่อยครั้ง พ่อบอกข้าพเจ้าว่า"ถ้าขับรถแล้วไม่เคยชนอะไรเลย...ก็คงไม่มี

วันเก่งหรอก คนที่ขับเก่งๆ ส่วนใหญ่ก็ต้องเคยเฉี่ยวเคยชนกันทั้งนั้น" แถมยังแอบแซวข้าพเจ้าอีกว่า"ส่วน

เรื่องเอารถเข้าศูนย์ ไว้สิ้นปีค่อยเอาไปทำครั้งเดียว เพราะพอถึงตอนนั้นคงได้อีกหลายแผล รอบคันเลยล่ะ"



แต่หลังจากเหตุการณ์วันนั้น มาจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาเป็นเวลา 2 เดือนกว่าๆแล้ว ข้าพเจ้าก็ยังไม่ได้ขับไป

เฉี่ยวหรือชนอะไรอีกเลย



อาจเป็นเพราะจากประสบการณ์ที่ข้าพเจ้าเคยขับรถไปเฉี่ยวเสาถึง 2 ครั้ง ทำให้ข้าพเจ้าขับรถอย่าง

ระมัดระวังมากขึ้น และจากการที่มีรถจักรยานยนต์มาเฉี่ยวรถของข้าพเจ้า ก็ทำให้ข้าพเจ้าจอดรถอย่าง

รอบคอบ ระมัดระวังกว่าเดิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น