วันอังคารที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2555

เทคนิคการซื้อ-ขายรถมือสอง

ผู้ซื้อ
การเลือกซื้อรถ




1. ดูลักษณะการใช้งาน เพื่อเลือกประเภทรถที่จะซื้อ
2 ตั้งงบประมาณ
3. เช็คราคารถ โดยเลือกรถจากองค์ประกอบของ 1 และ 2
4. ศึกษาข้อมูลต่างๆของรถรุ่นนั้นๆ เพื่อที่จะได้ตัดสินใจในการซื้อ ทั้งเรื่องการดูแลรักษา อะไหล่ อัตราการสิ้นเปลือง
5. หาแหล่งที่จะซื้อรถ ซึ่งมีทั้งรถบ้าน และรถเต็นท์ โดยดูทั้งจากสื่อต่างๆ สิ่งพิมพ์ อินเตอร์เน็ต
6. ศึกษาวิธีการดูรถ หรือถ้าจะไปดูรถควรให้ผู้ชำนาญไปช่วยดู
7. เช็คเอกสารต่าง ๆ ให้พร้อมที่จะทำการโอนกรรมสิทธิ์

การตรวจสอบรถบ้านเบื้องต้น
มีผู้ซื้อบางท่านที่ต้องการซื้อรถบ้านที่เจ้าของขายเอง ซึ่งผู้ซื้อสามารถตรวจสอบด้วยตนเองเบื้องต้นได้ง่ายๆ เช่น ขอดูเอกสารการครอบครอง (เล่มทะเบียน ) ควบคู่กับ บัตรที่ทางราชการออกให้ตัวจริง (บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ ฯ ) ดูว่าชื่อตรงกัน หรือไม่ มีการครองครอง เกิน 4 เดือน
หากผู้ขายมีการโอนลอยไว้ก่อน แต่ผู้ขายมีชื่อสกุลเดียวกัน หรือมีความเกี่ยวข้องกับผู้ครอบครองคนสุดท้าย ก็ถือได้ว่า เป็นรถบ้านเจ้าของขายเองเช่นกัน

การตรวจสภาพรถเบื้องต้นด้วยตนเอง


1.ภายนอก
1.1 ดูโครงสร้างของรถโดยรวม ได้สัดส่วนที่ควรจะเป็นหรือไม่มีการบิดเบี้ยวคดงอจากการเกิดอุบัติเหตุ
1.2 รถที่ผ่านการเกิดอุบัติเหตุและนำมาซ่อม อาจสังเกตได้ หลายๆวิธี เช่นลองเคาะที่ส่วนตัวถังรอบๆคันโดยการฟังเสียงว่ามีความโปร่งใสเท่ากันหรือ ไม่ ส่วนที่เคยทำสีจะมีเสียงทึบๆ แต่ถ้ามีการเปลี่ยนทั้งชิ้นวิธีนี้คงจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร
1.3 เช็คตามขอบกระจกขอบประตู ว่ามีการบิดงอหรือไม่ รวมถึงส่วนที่เป็นขอบยางต่าง ๆ
1.4 ดูสีรถว่าตรงกับสมุดทะเบียนหรือไม่ อาจมีปัญหาในการโอนได้
1.5 ช่วงล่าง เช็คว่ามีสนิมหรือผุบ้างไหมถ้ามีรถคันนั้นถ้านำไปใช้ ช่วงล่างน่าจะมีปัญหา
2.ภายใน
2.1 ตรวจสอบอุปกรณ์ภายในรถว่ายังใช้งานได้ปรกติ
2.2 สังเกตอุปกรณ์ต่างๆว่า ลักษณะที่เป็นเหมาะสมกับการใช้งานหรือเปล่าเช่น ถ้าคันเร่งหรือคลัทช์สึกแต่เลขไมล์น้อย อย่างผิดสังเกต อาจสันนิษฐานได้ว่ามีการกลับเลขไมล์
2.3 เช็คห้องโดยสารภายในโดยดูตามตะเข็บว่า ต่างๆว่าเป็นแนวเรียบหรือไม่ อาจเปิดดูตามพรมถ้าเป็นไปได้
2.4 บริเวณห้องเก็บของท้ายรถ ตรวจดูตามตะเข็บ ต้องมีความสมบูรณ์แนวตะเข็บต้องเรียบเนียน
2.5 ตรวจเช็คยางอะไหล่ และเครื่องมือต่างๆว่ามีครบหรือไม่ทั้ง แม่แรง ประแจต่างๆ
2.6 ระบบแอร์ไม่ควรมีเสียงดังของพัดลมและคอมเพรสเซอร์

3.เครื่องยนต์
3.1 ตัวเครื่องยังเป็นเครื่องเดิมๆหรือไม่ ไม่ควรมีการดัดแปลงเครื่องยนต์
3.2 เมื่อสตาร์ทรถ เครื่องต้องเงียบไม่มีเสียงกุกกัก
3.3 เปิดดูเมื่อสตาร์ทรถแล้วมีไอของน้ำมันเครื่องหรือไม่ ถ้ามีเครื่องอาจจะหลวมแล้ว
3.4 ต้องไม่มีรอยรั่วของน้ำและน้ำมันในจุดต่างๆ เช่น หม้อน้ำ น้ำมันหล่อลื่นที่จุดต่างๆ
3.5 เช็คแบตเตอรี่ ถ้าเปิดที่ปัดน้ำฝนแล้วทำงานช้าผิดปกติ หมายถึงแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม
4.ทดลองขับ
4.1 ระดับความร้อนจากมาตรวัดไม่ควรร้อนจนเกินไป
4.2 เมื่อใช้ความเร็วต้องไม่มีเสียงลมเข้า
4.3 เมื่อใช้ความเร็วสูงจะต้องไม่มีการโคลงหรือส่าย
4.4 ทดสอบระบบเบรกที่ความเร็วหลายๆระดับ
4.5 ขณะขับขี่เครื่องยนต์ไม่ควรมีเสียงดังจนเกินปรกติ
4.6 เมื่อมีการเปลี่ยนเกียร์ต้อง ไม่มีเสียงดังหรือกระตุก
5.ประวัติ
5.1 ตรวจสอบประวัติจากประกัน หรือ สมุดคู่มือบริการ
5.2 ตรวจสอบหมายเลขเครื่องกับขนส่งโดยว่ารถที่เราสนใจมีปัญหาหรือไม่ ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ใช้รถที่มีการแจ้งความว่าหาย

สิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นในการขอสินเชื่อ

1.สำเนาบัตรประชาชน
2.สำเนาทะเบียนบ้าน
3.หนังสือรับรองการทำงาน จากบริษัท ที่ทำงานอยู่ หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
4.สำเนาสมุดบันทึกเงินฝากย้อนหลัง อย่างต่ำ 6 เดือน
5.บุคคลค้ำประกัน พร้อมเอกสารเหมือนผู้ขอสินเชื่อ

หมายเหตุ กรณีที่ต้องขอสินเชื่อ ควรติดต่อบริษัทสินเชื่อ สอบถามและส่งเอกสารประเมินคุณสมบัติของผู้สินเชื่อก่อน เพื่อที่จะได้ทราบว่า จะได้วงเงินสำหรับซื้อรถในช่วงราคาไหน อัตราดอกเบี้ยที่ต้องเสีย ระยะเวลาการผ่อนชำระ ทำให้การซื้อรถที่ถูกใจรวดเร็วขึ้น รถดีราคาถูก คนสนใจจะซื้อมีจำนวนมาก โอกาสที่จะเจอไม่ได้มีบ่อยๆ

เทคนิคการซื้อ-ขายรถมือสอง

ผู้ขาย

การตั้งราคา

1.สืบราคาของรถ โดยอาจดูจากสื่อ สิ่งพิมพ์ หรือสื่อ ทาง internet ซึ่งสามารถนำมาจุดเริ่มในการตั้งราคา ซึ่งสื่อบางสื่อจะมีการวิเคราะห์หรือบอกราคาตั้งของรถรุ่นนั้นๆ ปีนั้น ซึ่งจะได้ราคาที่มีการซื้อขายกันในท้องตลาด โดยราคานี้เรียกว่า ราคาตลาด (โดยปกติ ราคานี้จะมีค่าใช้จ่ายของคนกลางรวมอยู่ด้วย )
2.ประเมินสภาพรถและปัจจัยอื่น โดยอาจดูความสมบูรณ์ของรถ อุปกรณ์เสริม ความเร่งด่วนในการแลกเปลี่ยนรถ (อาจเป็นการเปลี่ยนรถเป็นรถ หรือรถเป็นเงิน)
3 ลองให้เต็นท์ ตีราคา รถที่จะขาย เป็นราคา เต็นท์รับซื้อเข้า
4.สรุปราคาโดยนำปัจจัยต่างๆมา โดยราคาควรจะอยู่ระหว่าง ราคาตลาด กับราคา เต็นท์รับซื้อเข้า

การเตรียมตัวก่อนขาย

1.เตรียมใจที่จะขาย
2.เตรียมรถ
2.1 ทำความสะอาดทั้งภายนอก ภายใน และห้องเครื่อง
2.2 ตกแต่งหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน (สร้างมูลค่าเพิ่ม)
2.3 ในส่วนของอุปกรณ์ตกแต่งติดรถ หากไม่ต้องการแถมควรถอดออกจะได้ไม่มีปัญหา
เมื่อได้ทำการตกลงราคาเรียบร้อยแล้ว
3.เตรียมเอกสารให้ครบ

เอกสาร

1.สัญญาจะซื้อจะขาย (หรือสัญญามัดจำ)
2.สัญญาการซื้อขาย (หรือสัญญาส่งมอบ)
3.สำเนาบัตรประชาชน
4.สมุดทะเบียน
5.ใบโอนรถ และใบมอบอำนาจ

วิธีขาย

1. ขายผ่านเต็นท์ สะดวกไม่ต้องติดต่อผู้ซื้อหลายคน แต่ ได้ราคาไม่ดีมาก
2. ประกาศขายเอง
2.1 ติดป้ายที่หน้ารถและท้ายรถ พร้อมเบอร์ติดต่อ
2.2 ประกาศขายตามสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งตามสื่อจะมีทั้งลงประกาศฟรีและเสียค่าใช้จ่าย แล้วแต่เลือก
2.3 ประกาศขายทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งขณะนี้มีทั้งประกาศแบบกระทู้และแบบ search engine
3. นำรถคันเก่าไปแลกเปลี่ยนเป็นรถคันใหม่
3.1 เทิรฺ์นกับเต็นท์
3.2 เทิร์นกับโชว์รูมรถ
4. ประมูลผ่านสถาบันที่ให้บริการด้านการประมูลรถยนต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น