วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

น้ำมันแพง ...ต้องฉลาดเติม




1.จงเติมน้ำมันตอนเช้าขณะที่อุณหภูมิบนพื้นดินยังเย็นอยู่
 
  อย่าลืมว่าปั๊มน้ำมันทุกแห่งมีถังน้ำมันฝั่งอยู่ใต้ดิน
เมื่อพื้นดินยิ่งเย็น
 
  น้ำมันยิ่งควบแน่น
เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น
น้ำมันก็จะขยายตัวตาม
 
  ดังนั้น หากเติมน้ำมันช่วงบ่ายหรือเย็น

คุณจ่ายค่าน้ำมัน 1 แกลลอน

แต่ได้มาไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

ธุรกิจค้าน้ำมัน
ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเบนซิน ดีเซล น้ำมันสำหรับเครื่องบิน

  เอทานอล หรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นๆ

อุณหภูมิและความถ่วงจำเพาะ

  มีบทบาทสำคัญ
อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเพียง 1 องศา
หมายถึง.........เงินมหาศาลในธุรกิจนี้
แต่ปั๊มน้ำมันไม่มีการชดเชยอุณหภูมิให้ลูกค้า



2.   ขณะเติมน้ำมัน
อย่าให้เด็กปั๊มตั้งหัวฉีดอยู่ในตำแหน่งไหลเร็ว

( ในอเมริกาเจ้าของรถต้องลงมือเติมเอง)


   หากคุณสังเกต จะเห็นว่ากลไกเหนี่ยวมี
3 ระดับ คือ  low, middle, และ high
  เมื่อตั้งในระดับไหลช้า
จะเกิดไอระเหยของน้ำมันน้อยที่สุด

หากตั้งในระดับไหลเร็ว
น้ำมันบางส่วนจะกลายเป็นไอระเหย

และถูกสูบย้อนกลับไปยังถังใ้ต้ดิน
นั่นหมายถึงคุณจ่ายเงินมากกว่าที่ควร


3.เคล็ดลับอีกอย่างคือ
ควรเติมน้ำมันเมื่อน้ำมันในรถเหลือครึ่งถัง

( แหล่งข้อมูลบางแห่งแนะนำว่า เติมน้ำมันแค่ครึ่งถังก็พอ
    จะได้ลดน้ำหนักบรรทุกและประหยัดน้ำมัน
ทั้งนี้และทั้งนั้น
    ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณตัดสินเอาเองก็แล้วกัน ― หมายเหตุผู้แปล)
 

เหตุผลคือ น้ำมันบรรจุในถังยิ่งมาก เนื้อที่ว่างสำหรับไอระเหยก็ยิ่งน้อย
    เพราะน้ำมันระเหยเป็นไอเร็วกว่าที่คุณคาดคิด
    ในคลังเก็บน้ำมันจะมีอุปกรณ์ภายในถัง ทำหน้าที่เป็นเพดาน
    ลอยขึ้นลงตามระดับน้ำมัน
ทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างน้ำมันกับอากาศ
    ลดไอระเหยของน้ำมันให้น้อยที่สุด
รถขนส่งน้ำมันเมื่อมาบรรทุกน้ำมัน
    จึงเติมได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ผิดกับที่ปั๊มน้ำมันซึ่งไม่มีการชดเชยอุณหภูมิ


4.ข้อเตือนใจอีกข้อหนึ่ง
 
ขณะที่คุณขับรถเข้าปั๊มถ้าเห็นรถบรรทุกกำลังถ่ายน้ำมันเข้าสู่ถังเก็บใต้ดิน
    จงอย่ารีบร้อนเติมน้ำมันช่วงเวลานั้น
เพราะตอน
"ลงของ" สิ่งแปลกปลอม
ซึ่งปกติตกตะกอนอยู่ใต้ถัง จะถูกปั่นป่วนจนลอยตัว

    หากคุณเติมน้ำมันช่วงเวลานั้น
อาจมีโอกาสดูดเอาสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่รถคุณได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น