วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ทำอย่างไรเมื่อต้องขายรถตัวเอง

การขายรถคันเดิม อาจดูเหมือนทำได้ง่าย ถ้าไม่เน้นว่าต้องได้ราคาดีที่สุด แต่ถ้าอยากได้เงินมากที่สุด บทความนี้อาจมีประโยชน์


เหนื่อยน้อยได้ราคาแย่ เหนื่อยมากได้ราคาดีเป็นสัจธรรมง่ายๆ คล้ายกับกรณีเสียเงินซื้ออะไรก็ตาม ถ้าเหนื่อยน้อยมักจะซื้อในราคาแพง แต่ถ้าเหนื่อยมาก ตระเวนเปรียบเทียบราคาไปเรื่อยๆ ก็มักจะได้ราคาถูก


ถ้าไม่อยากเหนื่อย แล้วยอมได้เงินน้อยลงไปสัก 1-3 หมื่นบาทในรถที่เหลือราคา ณ วันที่ขายคันละไม่กี่แสนบาท หรือเงินหายไปเป็นครึ่งแสนในรถที่ราคาแพงกว่านั้น ก็เปิดหาประกาศคนรับซื้อรถตามหน้านิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ได้เลย บริการมาซื้อถึงที่ สะดวกรวดเร็ว สามารถรับเงินสดหรือนัดจ่ายเงินที่ธนาคารได้เลย


แน่นอนว่าจะถูกกดราคา เพราะเขาก็ต้องนำไปขายต่อเอากำไรอีกต่อหนึ่ง แต่ถ้ารถมีสภาพดีจริงๆ แล้วต้องการขายอย่างสะดวกแบบนี้ ก็พอจะเล่นตัวดันราคาให้สูงขึ้นได้ (แต่ก็ยังน้อยกว่าประกาศขายเอง) เพราะปัจจุบันนี้แวดวงผู้ค้ารถมือสองแย่งกันหาซื้อรถกันมาก ถ้านัดหมายหลายๆ รายมารับซื้อพร้อมกัน แล้วรถที่จะขายมีสภาพดี บางครั้งพบเห็นว่าแทบจะประมูลราคาแย่งกันซื้อเลยก็มี


ประกาศขายเองได้ราคาดีกวา สะดวกด้วยสารพัดสื่อ แต่เสียเวลานัดหมาย และอาจหัวเสียจากคำติติงหรือผิดนัด โดยมีสารพัดวิธีประกาศหาผู้ซื้อ เช่น 
  • ติดประกาศบนกระจกด้านในของตัวรถให้อ่านจากภายนอกได้อย่างชัดเจน ขับใช้งานตามปกติ มีข้อดี คือ คนเห็นมาก และคนที่สนใจจะมั่นใจว่ารถมีสภาพดีพอสมควร เพราะมีการใช้งานตามปกติ แต่อาจดูตลกสำรับบางคน รถหมดสวยด้วยกระดาษปิดกระดาษเลอะเทอะ
  • นำรถไปจอดนิ่งในเส้นทางที่ปลอดภัย และมีคนสัญจรผ่านไปมา ติดป้ายประกาศขนาดใหญ่ที่กระจก หรือวางกล่องปิดประกาศพร้อมรายละเอียดสั้น ๆ บนหลังคารถ
  • แจ้งลงประกาศฟรีในนิตยสารรายสัปดาห์หรือหนังสือพิมพ์ ถ้าอยากเพิ่มความเด่นก็เสียเงิน แล้วจะได้พื้นที่ประกาศโดยเฉพาะหรือลงรูปให้ด้วย ค่าใช้จ่ายไม่กี่ร้อยบาทถึงพันกว่าบาทต่อคัน มีคนเฝ้าหารถมือสองจากสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ นี้เป็นจำนวนมาก แต่การลงประกาศต้องใจเย็น เพราะถ้าเป็นนิตยสารรายสัปดาห์ก็ต้องรอตีพิมพ์ออกมาวางแผง หลังแจ้งลงประกาศไปหลายวัน
  • เว็บไซต์-อินเตอร์เน็ต เป็นสื่อซื้อขายสินค้ามือสองที่กำลังมาแรง ได้รับความนิยมทั้งจากผู้ขายและผู้ซื้อ เพราะสะดวกในการลงประกาศ เกือบทั้งหมดลงประกาศได้ฟรี ยกเว้นต้องการเพิ่มความเด่น ส่วนใหญ่ลงประกาศปุ๊บก็ขึ้นแสดงผลให้ทันทีเลย รวดเร็ว มีคนดูมาก และที่สำคัญ เป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อด้วย
ตั้งราคาอย่างไรลองให้ผู้ค้ารถมือสองตีราคา แล้วก็พอเดาได้ว่า ราคาขายจากเจ้าของเก่าถึงมือเจ้าของใหม่โดยตรง น่าจะได้แพงกว่านั้นไม่น้อยกว่า 10,000 - 30,000 บาท


ตรวจสอบราคาขายของรุ่นเดียวกันปีเดียวกันจากสื่อสิ่งพิมพ์ และเว็บไซต์ ซึ่งก็ไม่ใช่ราคาตายตัว เป็นแค่ราคากลางเท่านั้น เพราะต้องขึ้นอยู่กับสภาพจริงด้วย แล้วนำมาประเมินเพื่อตั้งราคาขาย


ไม่ต้องตื่นเต้นกับราคาประกาศขายของเต็นท์ ซึ่งส่วนใหญ่แพงสุดขีด เพราะนั่นเป็นราคาตั้ง ยังลดลงได้อีกพอควร ดังนั้น ถ้าเจ้าของเดิมเสียเวลาขายเอง ก็ควรจะได้ทัดเทียมกับราคาของเต็นท์ที่ลดลงสุดๆ แล้ว


การตั้งราคาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ท้ายที่สุดก็พอจะเดาได้ว่า ถ้าตั้งแพงเกินไป ก็แทบจะไม่มีคนติดต่อมาเลย อย่างนั้นก็ต้องลดราคาลง
การตั้งราคารถมือสองในการขายเอง ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าอยากขายได้เร็ว และได้ราคาดี แต่ก็พอจะอ้างอิงราคาจากแหล่งอื่นด้วยวิธีข้างต้นได้


เตรียมรถอย่างไรไม่ได้แนะนำให้ย้อมแมว แต่ควรปรับสภาพให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ ล้างทำความสะอาดทั้งภายนอกภายในให้เนี๊ยบที่สุด หากมีร่องรอบหลังเกิดอุบัติเหตุเหลือยู่จนน่าเกลียด ก็ควรส่งไปเข้าอู่ซ่อมสีอย่างประณีต เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ แม้ทราบดีว่า ซื้อรถมือสองไปแล้วจะต้องตรวจซ่อมก่อนนำไปใช้งาน แต่ก็ชอบมากกว่าถ้าสภาพโดยรวมพร้อมใช้เลย


เตรียมเอกสารใบโอน ใบมอบอำนาจ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สมุดจดทะเบียนรถ โดยถ่ายเอกสารหน้าในของสมุดจดทะเบียนมาไว้กับรถ เพื่อให้ผู้ที่สนใจซื้อดูรายละเอียด ปีจดทะเบียน เลขตัวถัง และเลขเครื่องยนต์ ฯลฯ ว่าตรงตามจริงหรือไม่ ส่วนเอกสารตัวจริงทั้งหมดข้างต้นเก็บไว้ก่อน ถ้าตกลงซื้อขายค่อยเอาออกมา


ถ้าจะผ่อน…ยุ่งยากหากผู้ซื้อมีเงินไม่เพียงพอ ก็ต้องหาแหล่งเงินมาสมทบ หรือไฟแนนซ์นั่นเอง แม้มีมากมายต้องเสียเวลารอรับเงินส่วนที่เหลือไม่ต่ำกว่า 10 วัน จากขั้นตอนต่าง ๆของไฟแนนซ์ ทั้งเริ่มทำเรื่อง ตรวจสอบสถานะสภาพผู้ซื้อ-ผู้ค้ำประกัน รออนุมัติ นำรถยนต์ไปโอนที่กรมการขนส่งทางบก รอรับเช็คหลังจากนั้นอีก 2-5 วัน


ผู้ขายหลายคนที่ขายรถราคาหลายแสนบาทขึ้นไป ซึ่งมีแนวโน้มว่าคนที่สนใจส่วนใหญ่จะไม่มีเงินสดครบตามราคา จึงหันมาขายให้ผู้ค้ารถยต์ที่มีเงินสดมาจ่ายถึงที่พร้อมกับรับเอกสารต่างๆ ใบโอนลอย และรับรถไปเลย ซึ่งสะดวก และฉับไวกว่า


เทิร์นคันเก่าแล้วซื้อคันใหม่ ในกรณีที่ซื้อรถใหม่ การเทิร์นรถคันเก่าเพื่อซื้อคันใหม่ อาจได้ราคาไม่สูงนัก เพราะรถใหม่แต่ละคันกำไรน้อย รถที่รับเทิร์นเข้าไปก็ต้องเอาไปขายต่อแล้วไม่ขาดทุนจากราคาที่รับเทิร์น


แต่สำหรับการเทิร์นคันเก่าเพื่อซื้อรถมือสอง อาจได้ราคาดีไม่น้อยกว่าการขายเองเท่าไรนัก และสะดวกกว่าด้วย ถ้าพอดีว่ารถมือสองคันนั้นเขาอยากขายหรือมีกำไรมาก ก็สามารถเอาถัวเฉลี่ยกับการซื้อคันที่เทิร์นในราคาแพงได้


การขายรถคันเดิมไม่ใช่เรื่องซับซ้อน แต่ต้องจำไว้ว่า … เหนื่อยน้อยได้ราคาแย่ แต่ถ้าเหนื่อยมากได้ราคาดี 


ที่มา  www.car4ur.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น