วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สวย หล่อ ไม่ต้องรอชาติหน้า

บรรยากาศชิล ๆ แบบปลายฝนต้นหนาวกำลังจะผ่านไป เพราะนับแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป ลมหนาวจะโชยความเย็นมาสัมผัสผิวกาย
พอลมหนาวมา ผิวหนังจะเป็นสิ่งที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโดยตรง ในบางท่านที่จะเลยการเอาใจใส่ต่อร่างกายตัวเอง ก็จะได้รับการเตือนจากผิวหนัง อาจจะเริ่มจากการ ′ตึง′ ′คัน′ และถึงขั้น
′ผิวแห้งและแตก′ ในที่สุด
เมื่ออากาศเริ่มเปลี่ยนเย็นลง ทำให้หลายท่านเกิดอาการขี้เกียจอาบน้ำก็ก่อเกิดปัญหาการหมักหมม สกปรกขึ้น ยิ่งโดยเฉพาะใบหน้าจะสังเกตเห็นได้ว่า ขึ้นเม็ดหรือผดผื่นเกิดขึ้นมา    หรือบางครั้งก็เกิดการอักเสบบริเวณรูขุมขน
ส่วนการอาบน้ำอุ่นก็จะเป็นสาเหตุของการทำให้ผิวแห้งเป็นขุย
 ′โอภาส ณ ตะกั่วทุ่ง′ แนะนำไว้ในหนังสือ ′สวย-หล่อ ไม่ต้องรอชาติหน้า′ ว่าการดูแลรักษา ผิวพรรณในช่วงที่อากาศเย็น ก็ควรเริ่มดูแลกันที่ ′ผิวหน้า′ เป็นอันดับแรก
 การทำความสะอาดผิวหน้าโดยใช้ ′ครีมล้างหน้า′ มาเป็นสิ่งทำความสะอาดในช่วงอากาศเย็นจะดีกว่า เพราะผิวหน้าเรานอกจากจะสะอาดแล้วยังไม่ต้องสูญเสียน้ำภายใต้ผิว อันเป็นสาเหตุของการแห้งตึงของผิวอีกด้วย
สำหรับการดูแลรักษาส่วนของผิวกาย ลำตัว แขนและขานั้น  ให้ลองหาครีมบำรุงผิวที่ใช้สำหรับผิวกายมาทา แล้วใช้ฝ่ามือ คลึงฝ่ามือหมุนเป็นวงกลมพร้อมลูบไล้ไปช้า ๆ ให้ทั่วทุกส่วนของร่างกาย  ให้เนื้อครีมซึมหายไปภายใต้ผิว แล้วปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก วิธีนี้อาจจะทำสองวันครั้งก็ได้ หรือท่านใดที่มีเวลามาก อาจจะทำทุกวัน วันละครั้งก็ได้
 หรืออีกวิธีหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยเวลา ก็สามารถให้ความชุ่มชื้นกับผิวกายได้ในช่วงอาบน้ำ คือหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ก่อนจะใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดน้ำที่เกาะติดลำตัวออก ก็ใช้เบบี้ออยล์เทลงฝ่ามือแล้วลูบลงไปให้ทั่วร่างในขณะที่ยังคงมี    หยดน้ำเกาะติดอยู่ แล้วค่อยใช้ผ้าเช็ดตัวซับหยดน้ำนั้นออกให้แห้ง ก็เป็นอันใช้ได้ ผิวก็จะยังคงความชุ่มชื้นอยู่ ไม่แห้งแตก
 ส่วนครีมบำรุงที่เลือกใช้นั้น ควรเลือกใช้ครีม    ที่มีลักษณะเป็นเนื้อครีมเข้มข้นดีกว่าที่เป็นครีมน้ำนมเหลว เพราะเนื้อครีมข้นสามารถช่วยทำให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้นานกว่า
 หลังทำความสะอาดผิวแล้ว ก่อนนอนควรใช้ครีมบำรุงสำหรับกลางคืนทาลงบนใบหน้า แล้วใช้นิ้วกลางกับนิ้วนางนวดเบา ๆ ให้ทั่วใบหน้าให้    เนื้อครีมซึมลงสู่ภายใต้ผิว เพื่อคงความชุ่มชื้นจะทำให้ผิวสมบูรณ์แข็งแรง สามารถต้านทานแรงลมและความเย็นของอุณหภูมิที่ลดลงได้
 และอีกประการหนึ่งที่สำคัญมาก คือ อย่าลืมดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เป็นการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อีกทางและอย่าลืมกินผักผลไม้ที่อุดมไปด้วย วิตามินซี จะช่วยทำให้ผิวพรรณผ่องใสเป็็นยองใย ต้านความแห้งตึงที่มาพร้อมกับหน้าหนาวนี้ได้อย่างไม่หวั่น
ขอขอบคุณ  ภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น