ก้าวไปอีกขั้นในวงการศัลยกรรมตกแต่ง และเป็นส่วนที่นิยมทำกันมากซะด้วย ก็คือ จมูก การเสริมจมูกนิยมเสริมดั้งโดยมาก เพราะคนไทยเรามีลักษณะพันธุกรรมเป็นมาอย่างนี้ แต่ความรู้สึกว่า คนสวย หล่อ หน้าตาดี ต้องดั้งสวย ได้รูป พอเหมาะกับโครงสร้างหน้า โดยการเสริมจมูกนั้น จากสมัยก่อนฉีดของเหลวเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นซิลิโคนเหลว ไขมัน ฯลฯ ซึ่งก้เกิดปัญหามากมาย ทั้งไม่ได้รูปทรงที่คงตัว เกิดปัญหาเน่าพัง จนมาเกิดซิลิโคนแข็งก้เป็นที่นิยม ปลอดภัย แต่ก็ยังมีข้อติบ้าง ที่ดูแข็งกระด้างผิดธรรมชาติ หรือแท่งซิลิโคนเล็กๆ นั้นเกิดโผล่ขึ้นมาเสมอผิวหนังจนมองเห็นร่องรอย หรือหนักกว่านั้นทะลุผิวออมาอวดโฉมความลับซะเลย
ล่าสุด ศัลยแพทย์ตกแต่งไทยได้คิดค้นการเสริมจมูกด้วยการปลูกย้ายไขมัน (Graft) ขึ้นมาป้องกันวัสดุแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย แต่เป็นไขมันส่วนหน้าท้องของเจ้าตัวนั่นเอง ที่ให้ความลงตัว ไม่ไหลย้อย เสียรูปทรงศัลยแพทย์ผู้นั้นคือ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชดานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย
สำหรับความพยายามของแพทยืไทยในการคิดค้นวัสดุธรรมชาติเพื่อเสริมจมูกนั้น ที่ผ่านมามีการนำกระดูกอ่อน จากบริเวณ หรือบริเวณซี่โครงมาใช้จนเป็นที่แพร่หลาย เนื่องจากเป็นวัสดุที่หาง่าย ไม่มีผลกระทบต่อการทำ แต่กลับไม่เป็นที่นิยมมากนักในปัจจุบัน เนื่องจากมีความยุ่งยากซับช้อนมากกว่า
จึงมีการหันไปหาวัสดุยอกนิยมจนมีการนำมาใช้อย่างกว้างขวางในปัจจุบันคือ ซิลิโคนซึ่งมีหลากหลายชนิด โดยแต่ละชนิดยังให้คุณสมบัติที่แตกต่างกันไปด้วย อาทิ ซิลิโคนแบบแข็ง ต้นทุนจะต่ำ ข้อดีคือ ตัดแต่งรูปทรงได้ง่าย แต่เมื่อใช้กับร่างกายก็ส่งผลให้ทะลุได้ง่ายและมีปัญหาต่อเนื่องตามมา
ส่วนซิลิโคนแบบอ่อน มีความยืดหยุ่นสูง แต่กลับตัดแต่งรูปทรงได้ยาก ซิลิโคนที่ให้ประสิธิภาพดีที่สุดสำหรับงานศัลยกรรมคือ ซิลิโคนที่มีความแข็งปลานกลาง เพราะมีความยืดหยุ่นสูงดูเป็นธรรมชาติ และจัดแต่งรูปทรงได้ง่าย ซิลิโคนประเภทนี้จึงเป็นที่นิยมต่อการศัลยกรรม
ศัลยกรรมเพื่อบุคลิกภาพที่ดี
คุณภาพชลธิศ กล่าวว่า
“ปัจจุบันนี้ การเสริมจมูกมีทั้งหมด 3 อย่างคือ ใช้ซิลิโคน กนะดูกอ่อน และเนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งแต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะของจมุกคนไข้ว่ามีโครงสร้างอย่างไร (ใหญ่ เล็ก หนังมาก กระดูกใหญ่ ฯลฯ ) และดุลพินิจของแพทย์ แต่ตอนนี้การใช้เนื้อเยื่อไขมันเป็นเหมือนวิวัฒนาการใหม่ของวงการศัลยกรรม จมูก
จมูกที่มีปัญหา คือ มันเสียรูปทรงไปแล้ว ไม่ว่าจะเกิดจากหมอเถื่อน ที่ทำแล้วออกมาไท้ดี แย่ยิ่งกว่าเดิม หรือทำว่าอาจเกิดจากอุบัติเหตุ ซึ่งการใช้ซิลิโคน หรือกระดูกอ่อนเข้ามาข่วย บางทีอาจไม่ได้รูปทรกที่ต้องการ
ย้านไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เราก็ได้มีการเอาเนื้อเยื่อร่างกายมาปลูกถ่ายเพื่อจะซ่อมอซมส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเราไช่ไขมันเป็นหลัก ซึ่งจริงๆ แล้วได้มีการนำไขมันมาใช้กว่า 100 ปีแล้ว โดยนำไปปลูกถ่ายในอวัยวะต่างๆทั้งในส่วนของ หู คอ จมูก เช่น ใช้ในโพรงหู โครงไซนัสหรือฉีดไปในกล่องเสียง เป็นต้น
แต่การที่เรานำมาใช่ในโพรงจมูก ซึ่งธรรมชาติของไขมันนั้น มันจะมาปลูกที่จมูกนั้นจะติดได้ยากมาก ไม่เหมือนกับการนำไปปลุกถ่ายที่คาง แก้ม และไวนัสหรือที่อื่นๆ ซึ่งส่วนเหล่านี้ไขมันจะติดง่าย”
วงการแพทย์พยายามนำไขมันมาปลูกถ่ายรักษาจมูก
“ปัญหาการทำไขมันมาศัลยกรรมจมูกนี้ได้มีความพยายามแก้ไขเรื่อยมา เช่นทางคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เริ่มให้การรักษาที่ได้รับอุบัติเหตุ กลุ่มคนไข้ที่จมูกบูดเบี้ยวมาตั้งแต่เกิด หรือกลุ่มที่ไปรับการผ่าตัดจมูกมาแล้วเกิดอาการผิดปกติ เช่น กระดูกทรุดไม่สามารถใช้ซิลิโคนช่วยได้แล้ว ลางคนก็ไม่ทำจมูกกับหมอเถื่อนมา แล้วกลายเป็นเนื้องอก เน่า อักเสบ เราก็ต้องตัดเนื้องอกออกก่อน อต่พอเอาเนื้องอกออก จมูกก็จะเสียรูปทรง ก็ต้องเอาไขมันไม่ซ่อมหรือบางคนไปใส่ซิลิโคนแท่งมา แล้วซิลิโคนทะลุ พอเลาซิลิโคนออกมาก็ต้องเอาไขมันเข้าไปเสริมแทนส่วนที่ว่างไปเช่นกัน
เราเคยช่วยคนข้มาพอสมควรประมาณ 80-90% ของคนไข้ก็จะพอใจกับจมูกที่ทำให้ใหม่ แต่ก็มีบางรายที่ไขมันละลายซึมไปกับร่างกายเกือบหมด ก็ต้องกลับมาทำครั้งที่ 2 วิธี ซึ่งการทำโดยวิธีนี้ในระยะแรกๆ นั้น เราก็ต้องค้นหาวิธีจะทำให้ไขมันติดกับจมูกได้ดีที่สุด ซึ่งในปัจจุบันก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ถึงแม้บางรายจะมีการละลายไปมาก แต่ก็ยังเหลืออยู่อย่างน้อยก็ 20-30% ซึ่งก็ถือว่าเป็นที่ทำให้ช่วยแก้ปัญหาสำหรับคนไข้ที่มีปัญหาสำหรับคนไข้ที่ มีปัญหาเรื่องจมูกได้มากขึ้นจริงๆ และผลก็ออกมาได้ดี
การใช้ไขมันเป็นการรักษา ซึ่งเหมือนกับการปลูกถ่ายอวัยวะต่างๆ ในร่างกายเช่นการตัดผิวหนังส่วนหนึ่ง มาปะให้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งการใช้ไขมันก็มีมานานมากแล้ว ปต่การนำมาใช้กับจมูกนั้นมันจะติดยาก ไม่เหมือนกับเราเอาข้าวไปหว่านในที่แล้ง ทำให้ปลูกติดยากมาก ตรงนี้ก็เป็นปัญหาที่เราแก้ไขปรับปรุงวิธีการ เพื่อทำให้สามารถปลุกติดได้มาขึ้นเรื่อยๆ
ขั้นตอนการเสนริมจมูกด้วยไขมัน
“การทำนั้นซึ่งต้องมีการคัดไขมัน เลือกไขมันด้วย ซึ่งพอเราเอาไขมันออกมาแล้วก็ต้องเอาส่วนที่เป็นน้ำทิ้ง ให้เหลือแต่เนื้อเยื่อที่เป็นไขมันจริงๆ ซึ่งจะมีมากที่พุงของคนเรา แต่ว่าเราใช้นิดเดียวประมาณนิ้วก้อยหรือ 5 cc
เราเริ่มต้นจากการรักษาคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องของจมุกเสียทรง ทั้งจากอุบัติเหตุ การผ่าตัดเนื้องอก ไซนัส หรืออื่นๆ กระทั้งเอามาใช้ในคนปกติ เพื่อเป็นการเสริมความมั่นใจให้คนที่มีปัญหาในเรื่องของสันจมูก ก็คือ “ศัลกรรมเพื่อบุคลิกภาพ”
ปัญหาในเรื่องจมูกบี้ เป็นเรื่องของปมด้อยซึ่งการใช้ไขมันจะสามารถช้วยเสริมความั่นใจมากขึ้น แต่การปลูกไขมันนั้น ก็ขึ้นอยู่กับไขมันด้วย และสภาพของผิวหนังด้วย ถ้าหนังมันตึงกับเราใหส่เสื้อ ถ้าใส่เสื้อรัดๆ ก็จะเหมลือพื้ที่สำหรับปลุกไขมันได้น้อย แต่ถ้าเรามีหนังมทากเราก็จะปลูกขัมนเข้าไปได้มากขี้น”
เสริมจมูกปลูกย้ายไขมัน
“การเสริมจมูกด้วยการปลูกย้ายขัมน เป็นนวัตกรรมเสริมความงามล่าสุดที่ได้คิดค้นและพัฒนาขึ้น แก้ปัญหาที่เกิดจากการทำศัลยกรรมจมูกด้วยซิลิโคน ที่พบบ่อยที่สุดคือกรณีซิลิโคนทพทะลุออกมาผิวหนังออกมา ซึ่งสร้างความเจ็บปวดและทรมานให้กับผุ้ป่วยจำนวนมากในร่างกายมนุษย์เรานี่ แหละ โดยนำมาจากการเจาะไขมันบริเวณสพดือและมีลักษณะเหมือนเอ็นข้อไก่มาใช้เสริม จมูก
เมื่อทำการย้ายไขมัน (Graft) มาปลุกใหม่บริเวณจมูก เลือดบริเวณจมูกก็จะทำการหล่อเลี้ยงไขมันจนเหลือเป็นส่วนหนึ่งของจมูก ซึ่งกรรมวิธีดังกล่าวไปยุ่งยากใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น เนื่องจาการผ่าตัดตั้งทำอย่างรวดเร็วและรอบคอบที่สุด เพื่อลดอาหารบอบซ้ำของร่างกาย
การศัลกรรมด้วยวิธีนี้ไม่มีผลกระทบและผลข้างเคียงใดๆ เนื่องจาไขมันไม่ไช่สารแปลกปลอมหรือวัสดุสังเคราะหืจึงไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นไขมันของคนนั้นเองด้วย และไขมันส่วนนี้ทำให้รูปทรงของจมูกสวยงามดูเป็นธรรมชาติ และมีความยืดหยุ่นสูงอีกด้วย
การเอาไขมันมันออกมา หมอจะจะเจาะรูที่หน้าท้อง (เล้กๆ เท่านั้น) และหยิบไขมันออกมาเป็นก้อน หลังจากนั้นก็จะต้องตัดไขมันที่จะเอามาปลูก ซึ่งตรงนี้ถือว่าต้องใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์และความเชียวชาญ ของแพทย์ ซึ่งใช้เวลาในการเอาไขมันออกมาประมาณ 5 นาทีเท่านั้น เสร็จแล้วก็เย็บปากแผลนิดเดียว ประมาณ 5 – 7 วันแผลก็หายสนิท
เรื่องของรูปของทรงจมูกที่ทำนั้น หมอก็มีหน้าที่จัดรูปทรงเหมือนกับเราปั้นตีกตาหมอมีหน้าที้ตรียมช่องสำหรับ ใส่นุ่นเข้าไป หมอต้องเจาะรูที่ด้านในก่อน ซึ่งเป็นแค่ร฿เล้กๆ จากนั้นก็จะเอาไขมันส่วนที่คัดแล้วมาปลุกเข้าไป หลังจากนั้นก้เย็ยปิกปากแผลแระมาณ 2 เข็ม โดยปริมาณของไขมันที่จะปลูกเข้าไปนั้นขึ้นอยู่กับสภาพของหนังจมูกว่าสามารถ ยึดได้มากน้อยแค่ไหน
การดูแลรักษาต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ 3 เดือน โดยอาทิตยืแรกต้องระวังมากหน่อย หลังจากนั้นก็ต้องคอยดูว่าไขมันจะติดได้มากน้อยแค่ไหนก็จะมีปัจจัยอยู่ เช่น วิธีการคัดไขมันที่เอามาปลูก วิธีการใส่ การดูแลรักษา และขึ้นอยู่กับเนื้อเยื้อของไขมัน”
ผลวัยรุ่นติดน้อยกว่าที่คาด
“ผลเฉลี่ยของเนื้อเยื่อไขมันจะติดอยู่ที่ประมาณ 50% ที่ต้องบอกว่าเฉลี่ยก้เพราะแล้วแต่ละคนจริงๆ บางคนอาจติดง่ายบางคนก็ติดยาก ซึ่งในวัยอายุปรมาณ 40 – 50 ปี จะปลูกตดกว่า 70% ซึ่งเหตุผลกำลังอยู่ในการวิจัยหาคำตอบต่อไป
ส่วนในเรื่องของราคาในการทำนั้นขึ้นอยู่กับว่าเราไปทำที่ไหนมากกว่า ซึ่งมีทั้งโรงพยาบาลรัฐ และเอกชน และการใช้ซิลิโคนแท่งก็ยังถือว่าปลอดภัยอยู่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพอใจ และดุลยพินิจของแพทย์ ซึ่งต้องดูจมูกของคนไข้ว่าจะเหมาะกับการเสริมแบบไหน ซึ่งบางคนอาจจะต้องใช้ทั้ง 2 ชนิดเลยก็มี
ที่มา : นิตยสาร alternative health
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น