วิธีการผ่าตัด
การเสริมจมูกจะใช้การผ่าตัดขนาดเล็ก และเกือบจะทั้งหมดใช้ในการเสริมด้วยซิลิโคน (Medical Grade Silicone) ที่ยอมรับถึงความปลอดภัยสูง โดยสอดผ่านทางรอยผ่าตัดนี้จะมองไม่เห็นจากภายนอก แพทย์จะเริ่มผ่าตัดขนาดเล็กที่ด้านในของจมูก ซึ่งแผลเหล่านี้จะมองไม่เห็นจากภายนอก แพทย์จะเริ่มผ่าตัดโดยการออกแบบซิลิโคนให้เข้ากับรูปหน้า และโครงสร้างจมูกก่อน จากนั้นจึงเริ่มการเสริมจมูกโดยการฉีดยาชาพาะบริเวณที่รอบจมูก บางรายอาจใช้ยาสลบร่วมด้วยโดยการฉีดยาหรือกินก็มี สำหรับผู้ที่จะทำเกิดตื่นเต้นมาก แต่ส่วนใหญ่ใช้ยาชาก็พอแล้ว หลังผ่าตัดก็สามารถกลับบ้านได้ทันที แพทย์จะนัดมาตรวจดูอีกครั้ง 7 วันให้หลัง เพื่อตัดไหมและตรวจดูความเรียบร้อย
การดูแลหลังผ่าตัด
โดยทั่วไปแล้วมักไม่จำเป็นต้องปิดแผลบริเวณที่จมุกเลย สามารถเดินทางกลับบ้านได้ทันทีโดยที่คนทั่วไปอาจไม่สังเกตความผิดปกติ (ขึ้นอยู่กับฝีมือของแพทย์ด้วย) นอกจากอาการบวมปูดให้ผิดสังเกต แต่แพทย์บางคนอาจนิยมใช้ Plaster ปิดบริเวณสันจมุกหรืออาจใช้เผือกดามบริเวณสันจมูกด้วย แล้วแต่ความนิยมและประสบการณ์ของแพทย์แต่ละคน
เมื่อกลับถึงบ้านให้ใช้ผ้าเย็นประคบโดยรอบจมูกประมาณ 1 -2 วัน เพื่อไม่ให้มีเลือดออกจะได้มีอาการบวมน้อยลงลดอาการอักเสบ จากนั้นวันที่ 3 – 4 เมื่อมีอาการบวมเต็มที่แล้วให้เปลี่ยนมาประคบด้วยผ้าอุ่นเพื่อลดอาการบวมให้ น้อยลง
ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
พอได้น้อย ถ้าได้รัการผ่าตัดอย่างถูกต้องและมีการดูแลที่ดีพอ อย่างไรก็ดีอาการแทรกซ้อนเหล่านี้ก็อาจเกิดขึ้นได้คือ
1. จมูกที่เสริมเกิดความเอียง ผิดรูปทรง ถ้าคุณตรวจพบในระยะแรก 1 -2 สัปดาห์แรกที่แผลยังไม่เข้าที่ แพทย์อาจช่วยดัดให้เข้าที่ได้ ถ้าเกิดภายหลังอาจเกิดการชนหรือกระแทกบริเวณจมุกจะไม่สามารถตัดให้เข้าที่ ได้ มักจะต้องผ่าตัดใหม่
2. เกิดอาการจมูกอักเสบ เกิดขึ้นได้ ถ้ามีการติดเชื้อบริเวณที่ทำการผ่าตัด หรือบางครั้งเกิดจากการอักเสบผิวหนังบริเวณใก้เคียง เช่น เป็นบริเวณจมูก บ่อยครั้งที่มักเกิดจากการเสริมที่โด่งเกินไป เพราะอยากได้จมูกเกิดความยืดตัวของผิวหนัง จนเกิดแดงที่บริเวณปลายจมูก และอาจทะลุออกมาได้
ที่มา : alternative health
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น